วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

5 สุดยอด "โฮลดิ้ง มิดฟิลด์" ยุคนี้!!!

แม้ว่านักเตะในตำแหน่ง "โฮลดิ้ง มิดฟิลด์" จะเป็นเรื่องไกลตัวไปหน่อยสำหรับแฟนบอลอย่างพวกเรา เพราะพื้นฐานในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ก็มีมิดฟิลด์ตัวตัดเกม ตัวเพลย์เมกเกอร์ และมิดฟิลด์ห้องเครื่องของทีม ว่าไปแล้วคนส่วนมากจะพูดถึงแต่เทคนิคอันแพรวพราวของเหล่านักเตะเพลย์เม กเกอร์ทั้งหลาย ทั้งที่นักเตะในตำแหน่ง"โฮลดิ้ง มิดฟิลด์" มีความสำคัญต่อทีมไม่น้อยกว่าผู้เล่นในตำแหน่งอื่นเลย(บางทีอาจสำคัญกว่า ด้วยซ้ำไป) นักเตะจำพวกปิดทองหลังพระอย่าง"โฮลดิ้ง มิดฟิลด์"ในยุคนี้ มีใครบ้างที่เป็นสุดยอดราชัน ในตำแหน่งที่โลกลืม พวกเราลองมาติดตามกัน....





5. เดนิลสัน
หลายคนอาจจะงงว่า"เดนิลสัน" นักเตะที่ไม่มีตำแหน่งในทีมชาติชุดใหญ่ของบราซิล ติดโผสุดยอดผู้เล่นในตำแหน่งนี้ได้มาอย่างไร แต่ถ้าลองมาวิเคราะห์ผลงานกับความสม่ำเสมอของเขาจริงๆ ผมก็คงไม่สามารถกาชื่อของอตีตกัปตันทีมชาติบราซิลชุดเล็กรายนี้ไปได้เลย เพราะว่าไปแล้วถ้าเดนิลสันไม่เจ็บ รับรองเวนเกอร์การันตีตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงให้กับเขาแทบทุกๆเกม เดนิลสันถือว่าเป็นตัวช่วยซัพพอร์ทแนวรับในแผงกลางทำให้ "อเล็กซ์ ซง" เล่นได้ง่ายขึ้น จังหวะขวางบอลที่แม่นยำ การอ่านเกมที่ทำได้ค่อนข้างดี ทำให้โฮลดิ้งแมน ของทีม"ไอ้ปืนใหญ่"ติดโผมาอยู่ในอันดับที่ 5





4. ไมเคิล คาร์ริค
"ไมเคิล คาร์ริค" นักเตะโฮลดิ้งแมนกึ่งตัวตัดเกมของทีม"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ตั้งแต่อดีตนักเตะ "ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์" รายนี้ย้ายมาสู่รัง"โอลด์ แทรฟฟอร์ด" เขาถือเป็นนักเตะที่ช่วยสร้างสมดุลย์ในแดนกลางของทีมผีแดงให้แข็งแกร่งมาก ขึ้น ทางบอลที่ดี มีการอ่านเกมที่เด็ดขาด ทำให้แผงหลังของทีมไม่ค่อยเจอกับงานหนักนัก เมื่อเขาอยู่ในสนาม นักเตะเจ้าของหมายเลขเสื้อ เบอร์16ของทีม มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมปีศาจแดงดว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก3สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค เมื่อ2ปีก่อน แต่เสียอยู่อย่างเดียวที่ตำแหน่งในทีมชาติอังกฤษของเขา ไม่มั่นคงเหมือนกับในสโมสร





3. ชาบี้ อลอนโซ่
อดีตโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ของทีม"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มีส่วนสำคัญกับแชมป์ UCL ในปีแรกของเขากับราฟา และช่วยให้ทีมเกือบได้แชมป์พรีเมียร์ลีคเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถึงแม้ "อลอนโซ่"จะไม่มีความรวดเร็วคล่องตัวเหมือนกับโฮลดิ้ง มิดฟิลด์รายอื่นๆ แต่เขาก็ทดแทนด้วยคุณสมบัติหลายอย่าง ทั้งการวางบอลยาวที่แม่นยำ รวมถึงลูกยิงไกลและฟรีคิก ที่่ถือเป็นทีเด็ดของนักเตะชาวสเปนรายนี้อีกด้วย แน่นอนนักเตะสำคัญอย่างอลอนโซ่ เมื่อทีมลิเวอร์พูลขาดไป จึงส่งผลกระทบมาถึงฟอร์มที่ยำ่แย่ของทีมหงส์แดงในฤดูกาลนี้ด้วย ผมเลยจึงขอส่งชื่อ "ชาบี้ อลอนโซ่"นักเตะของทีม "รีล มาดริด"ติดอยู่ในท็อปทรีของนักเตะในตำแหน่งนี้ด้วยครับ





2.อันเดรีย ปีร์โล่
มิดฟิลด์เท้าช่างทองจากค่าย "เอซี มิลาน" และนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ของอิตาลี่ แน่นอนความสำเร็จของทีมปีศาจแดงดำ ในเวทียุโรปในช่วงทศวรรษนี้ "อันเดรีย ปีร์โล่" มีส่วนสำคัญอยู่มาก นอกจากนั้นเขาก็ยังเป็นนักเตะที่อยู่เบื้องหลังในความสำเร็จของทีมอัสซูรี่ ในศึกเวิลด์คัพ 2006 ถึงแม้ทัวนาเมนต์นั้น "ฟาบิโอ คันนาวาโล่"จะได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยื่ยมก็ตาม ถ้าพูดถึงนักเตะในตำแหน่ง โฮลดิ้ง มิดฟิลด์ จะมีรายชื่อของ"ปีร์โล่"ติดอยู่ในอันดับต้นๆอยู่เสมอ การวางบอลที่แม่นยำ ฟรีคิกที่เด็ดขาด รวมถึงการครอนโทรนแดนกลางได้อย่างเนียนตา ทำให้เขาอยู่ในอันดับ2อย่างไม่น่าสงสัยเลย





1.ชาบี้ เฮอร์นันเดส
ถ้าพูดถึงนักเตะปิดทองหลังพระขนานแท้ ต้องยกให้ "ชาบี้ เฮอนันเดส" นี่แหละครับ หลายๆคนอาจจะประทับใจกับลีลาการกระชากลากเลื้อยของ "ลีโอเนล เมสซี่" แต่อย่าลืมว่า "ชาบี้ เฮอนันเดส" เขาเป็นตัวคอยช่วยควบคุมจังหวะในแดนกลาง ทำให้เมสซี่เล่นได้ง่ายขึ้น นักเตะยอดเยื่ยมในทัวว์นาเมนต์ ยูโร2008 เขามีส่วนช่วยให้ทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยุโรป และทีมบาซ่าคว้า6แชมป์ในรอบปีนี้ สดๆร้อนผ่านมาไม่กี่วันเอง ชาบี้เพิ่งได้รับรางวัลนักเตะยอดเยื่ยมอันดับ3ของโลก(FIFA WORLD PLAYER OF THE YEAR) แน่นอนเขาคือนักเตะหมายเลข1ของมิดฟิลด์ตัวกลาง หรือ โฮลดิ้งมิดฟิลด์ในยุคนี้ แบบที่คู่แข่งไม่เห็นฝุ่นเลยครับ

...........................
NEVERDIE CLUB

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Denilson "The Holding Man"

Image

กราบสวัสดีมิตรรักแฟนปืนทุกท่าน (สำนวนเสี่ยวไปรึเปล่า 555+) เอาละครับขึ้นหัวเรื่องมาแบบนี้ พระเอกของเรื่องคงหนีไม่พ้น "เดนิลสัน เปอไรรา เนเวส" หรือที่แฟนปืนรู้จักกันสั้นๆนามว่า เดนิลสัน ลูกรักของป๋าเวนเกอร์ หนึ่งในแก็งค์จตุรเทพแห่งเอมิเรสต์ ฮ่าๆๆ แล้วน้องสั้นกับ The Holding Man เกี่ยวกันอย่างไร เอาเป็นว่าทุกท่านลองติดตามดูละกันครับ......


ผมรู้จัก เดนิลสัน ครั้งแรกก็เมื่อในปี 2006 นักเตะชาวบราซิลร่างเล็กย้ายมาจากทีม "เซาเปาลู" (เขียนอย่างนี้นะครับ ไม่ใช่ "เซาเปาโล" อย่างที่เข้าใจผิดกัน) ด้วยค่าตัว 5ล้านปอนด์ ในช่วงแรกที่เขาย้ายสู่ทีมอาร์เซนอล เวนเกอร์วางบทบาทของเดนิสันไว้ในตำแหน่ง Central Midfield ซึ่งเป็นตัวตายตัวแทนของ "เซส ฟาเบรกัส" เดนิลสันกับบทบาทนี้ถือว่าทำค่อนข้างใช้ได้พอสมควร ถึงขนาดกัปตันทีมยุคนั้น "เธียร์รี่ อองรี" ออกปากชมว่าเดนิลสันปรับตัวกับระบบทีมได้อย่างรวดเร็ว


ฤดูกาลที่ 2 ของเดนิลสัน ทีมเดอะกันเนอร์เสียผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ(Defensive Midfield)ไปถึง2คน ได้แก่ "มาติเยอ ฟลามินี่" กับ "จิลแบร์โต้ ซิลวา" เวนเกอร์เลยถอยเดนิลสัน ไปรับบทบาทใหม่ นั่นคือมิดฟิลด์ตัวตัดเกมและก็เป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมเสียด้วย (ในตอนนั้น "อเล็กซ์ ซง" เป็นเพียงแค่ตัวสำรองของเดนิลสัน) แต่ด้วยสรีระที่เล็กและบอบบางของเดนิลสัน บวกกับประสบการณ์ที่ยังน้อยอยู่ ทำให้เขาสู้แรงประทะกับพวกมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนไม่ไหว และก็ยังไม่นิ่งเท่าที่ควรเมื่อเจอทีมคู่แข่งบีบเกมเพรสซิ่งเร็ว ผลลัพธ์ก็คือเดนิลสันยังไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลส่วนใหญ่ได้ ในบทบาทนี้


เวนเกอร์คงเห็นว่า "อเล็กซ์ ซง" เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับได้ดีกว่าเดนิลสัน จึงเปลี่ยนบทบาทนี้ให้กับ "อเล็กซ์ ซง" แทน และซงก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆและเวนเกอร์ผิดหวัง มีพัฒนาการฝีเท้าที่เร็วมาก และก้าวมาเป็นผู้เล่นตัวหลัก ที่ทีมเราขาดไม่ได้เลย ณ.ตอนนี้


แล้วลูกรักอย่าง "เดนิลสัน" ละ แน่นอนเวนเกอร์ไม่ให้เป็นตัวสำรองแน่ ?

ในฤดูกาลนี้ เวนเกอร์ จัดการปรับแผนใหม่ ให้เข้ากับผู้เล่นของทีม โดยเปลี่ยนจาก 4-4-2 ที่มีมิดฟิลด์ตัวกลางอยู่2คน เป็น4-3-3ที่แดนกลางอัดมิดฟิลด์แน่นถึง3คน

การจำแนกหน้าที่แดนกลางเป็นดังนี้
1.เซส ฟาเบรกัส มิดฟิลด์ห้องเครื่องของทีม(Central Midfield) หน้าที่ คอยควบคุมกำหนดจังหวะช้าเร็วของทีม
2.อเล็กซ์ ซง มิดฟิลด์ตัวเกม (Defensive Midfield) หน้าที่ คอยทำลายเกมรุกของทีมคู่แข่งก่อนจะถึงแดนหลัง
3.เดนิลสัน มิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกมแดนกลาง(Holding Midfield)


หลายท่านคงสงสัย ว่าโฮลดิ้งมิดฟิลด์คืออะไร และมีหน้าที่อย่างไร?

ผมจะขออธิบายแบบสั้นแต่เน้นใจความว่า โฮลดิ้งมิดฟิลด์ของแต่ละทีม มีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมากหน้าที่หลักๆคือ ช่วยมิดฟิลด์ตัวรับ ในการเก็บกวาดบอลก่อนถึงแนวปราการหลัง ครอนโทรลจังหวะของเกม และเซ็ทบอลเพื่อเปิดเกมรุกให้แก่เพื่อน ที่สำคัญที่สุดของนักเตะในตำแหน่งนี้ก็คือ จะต้องทำงานหนักเพื่อเก็บเปอร์เซ็นต์การครองบอลให้เยอะที่สุดด้วย


Image

หลายคนยังนึกภาพนักเตะดังๆในตำแหน่งนี้ไม่ออก ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน ก็มี "ชาบี้ เฮอนันเดส" นักเตะผึ้งงานที่มีส่วนในความสำเร็จของทีม บาเซโลน่า และทีมชาติสเปนในช่วง2-3ปีหลัง อีกหนึ่งคนเป็นที่รู้จักก็ "อันเดรีย ปีร์โล่" มิดฟิลด์เท้าช่างทองของทีม เอซี มิลาน

นี่ละครับ ตำแหน่งโฮลดิ้งมิดฟิลด์มีส่วนสำคัญต่อทีมมาก เพราะนักเตะคนเดียว แต่รับบทบาทหนักหลายหน้าที่ในแดนกลาง เปรียบเสมือนตัวปิดทองหลังพระ เพราะนักเตะตำแหน่งนี้ไม่ค่อยได้เครดิตซักเท่าไหร่ เมื่อทีมประสบความสำเร็จ

เอาละครับกลับมาเข้าเรื่องเดนิลสันอีกที ตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บในปีนี้ เดนิลสันก็เหมือนมีความมั่นใจมากขึ้น การจ่ายบอลที่ดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น คอยดักจังหวะบอลพาสของทีมคู่แข่งได้ดี แถมเพิ่มออฟชั่นพิเศษด้วย ลูกยิงไกลที่สุดสวย กับฟรีคิกที่แม่นยำ(ในเกมวันเสาร์ที่ผ่านมา)


Image

สุดท้ายครับ แฟนบอลอย่างผมหวังไว้อย่างสูงว่า "เดนิลสัน" จะพัฒนาเป็น"Holding Midfield" ระดับ "World Class" แบบ "อันเดรีย ปีร์โล่" เพราะความสามารถของนักเตะทีมชาติอิตาลี่รายนี้ ที่มีทั้ง"การวางบอลยาวที่แม่นยำ การยิงไกลที่งดงาม และฟรีคิกที่เชื่อขนมกิน" เดนิลสันมีคุณสมบัติแบบนี้หมด แต่ยังเหลือคำถามว่าเดนิลสันจะทำได้ดีถึงระดับของสุดยอดมิดฟิลด์รายนี้ได้ หรือเปล่า? แฟนบอลอย่างพวกเราต้องคอยติดตามดูผลงานของDenilson "The Holding Man"เป็นซีรี่ย์เรื่องยาวกันต่อไปครับ 555+ *cry*

NEVERDIE CLUB

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

The new player Arsenal is dangerous of Anfield !!!

Image

ฮ่าๆ เปิดหัวเรื่องมาแบบนี้ ท่านผู้อ่านที่ตกวิชาภาษาอังกฤษ คงอาจจะงงกับหัวข้อเรื่องอยู่ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมเลยจึงขออธิบายแบบสั้นๆ แต่เน้นใจความว่า ผู้เล่นใหม่ของทีม "อาร์เซนอล" มักจะไปทำแสบทีมลิเวอร์พูล ที่สนาม "แอนฟิลด์" อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วง2-3ปีหลังที่ผ่านมา ผู้เล่นเหล่านี้มักจะไปทำประตูกันเป็นว่าเล่น ณ สนามที่มีมนต์ขลังของสาวกลิเวอร์พูล แล้วพวกเราเหล่าสาวกเดอะกันเนอร์ ลองมาดูกัน!! ว่าเรื่องราวนี้มันเป็นจริงแค่ไหน?

เริ่มต้นเรื่องด้วย "โทมัส โรซิคกี้" นักเตะเพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมชาติเช็ก ย้ายมาจากทีม "โบรุสเซีย ดอร์ทมุนท์" ในช่วงปิดฤดูกาล ก่อนฟุตบอลโลกปี 2006 ด้วยสนนค่าตัว 7ล้านปอนด์ และในฤดูกาลแรกของเขา ในสีเสื้อของทีมปืนใหญ่ โรซิคกี้จัดการเหมา 2 ประตูในช่วง 8 นาที ช่วยให้ทีมอาร์เซน่อลบุกไปถล่มทีมลิเวอร์พูลคาบ้าน 3-1 ในศึกฟุตบอลรายการเอฟเอคัพ รอบ 3 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2007

และถัดมาเพียงไม่กี่วัน "ฮูลิโอ บาปติสต้า" นักเตะเชื้อสายบราซิลเลี่ยน ที่ย้ายทีมมาในรูปแบบยืมตัว สลับขั้วกับ โจเซ่ อันโตนิโอ เรเยส พร้อมรับเสื้อหมายเลข9ของทีม และในฤดูกาลแรกก็เสมือนฤดูกาลสุดท้ายของเขาไปในตัว บาปติสต้าจัดการซัดคนเดียวไป 4 ประตู ในถิ่นแอนฟิลด์ จบเกม ทีมลิเวอร์พูลพ่ายให้กับทีมอาร์เซนอลคาบ้านยับเยิน 3-6 ตกรอบคาร์ลิ่งคัพ ยิ่งตอกย้ำอาถรรพ์ นักเตะใหม่ในรังแอนฟิลด์มากขึ้น

ปิดท้ายความขลังด้วย "อังเดร อาร์ชาวิน" นักเตะพรสวรรค์สูงทีมชาติรัสเซีย เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เกมนัดแรกของเขาที่สนามแอนฟิลด์ อาร์ชาวินทำผลงานแบบฉบับ มาสเตอร์พีซ ที่ทำให้เหล่าสเกาท์เซอร์ จำไปแบบไม่มีวันตาย ด้วยการซัดไป 4 ตุง และแต่ประตูก็ยังสวยงามแบบหมดจด สุดท้ายทีมลิเวอร์พูลยิงตีเสมอในช่วงท้ายเกมส์ไปอย่างสุดมันส์ ด้วยสกอร์มโหฬาร 4-4

Image

แล้วในเกมส์วันอาทิตย์ที่จะถึงหละ ใครเป็นผู้เล่นใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมเราในฤดูกาลนี้ ผมลองย้อนไปดูข้อมูล ก็พบกับรายชื่อของ "โทมัส แฟร์มาเล่น"กัปตันทีมชาติเบลเยื่ยมป้ายแดง หนึ่งเดียวในนักเตะทีมชุดใหญ่ที่ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลในซีซั่นนี้

แต่เขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่ง center back นี่หว่า จะทำแสบทีมหงส์ได้ยังไง?

อะ อะ อ้าว!!!ผมลืมไปได้ไง เขาคือนักเตะกองหลังจอมถล่มประตูของทีมเรา(ในปีนี้แฟร์มาเล่นทำไป 4 ประตูในพรีเมียร์ลีก ติดอันดันTOPต้นๆ นักเตะที่ทำประตูให้กับทีมเรา) ดังนั้นเมื่อย้อนดูจากสถิติที่กล่าวมา บวกกับความสามารถในการถล่มประตูของ "แฟร์มาเล่น" จึงมีเหตุผลเพียงพอ ที่จะทำให้ไอ้คนเหล็กคือตัวอันตราย ในศึกBig Match สุดสัปดาห์นี้ที่แอนฟิลด์ ก็เป็นไปได้!!! แล้วพวกเราลองติดตามดูกันว่า "นักเตะใหม่ปืน มักทำแสบที่แอนฟิลด์" หรือไม่? วันอาทิตย์นี้ "โทมัส แฟร์มาเล่น"เจ้าของฉายา "ไอ้คนเหล็ก" จะเป็นผู้ให้คำตอบคุณเอง 555+

NEVERDIE CLUB

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

R.V.P. Effect (ผลกระทบของทีมปืนใหญ่!!! เมื่อไร้ ฟาน เพอร์ซีย์)

Image

เปิดหัวเรื่องมาแบบนี้ ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ว่าผมเขียนถึงปรากฎการณ์Effect ผลกระทบของธรรมชาตินะครับ เพียงแต่ผมจะสื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า ทีมไอ้ปืนใหญ่ เมื่อขาด โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ศูนย์หน้าดัชต์แมนของทีมไป จะส่งผลกระทบหนักต่อทีมมากขนาดไหน ถึงกับผมเปรียบแทนด้วยคำว่า "R.V.P. Effect " เลยหรอ แล้วเราลองมาดูกันว่ามันรุนแรงเพียงใด!!!

ขอท้าวความ ตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูกาลขึ้นมา ทีมปืนใหญ่ของพวกเรา ทำประตูเป็นว่าเล่น บางนัดชนะขาดลอยเกิน3-4ประตู หรือแม้แต่ในเกมแย่ๆที่แพ้ 2ทีม จากเมืองแมนเชสเตอร์ ทีมอาร์เซนอล ก็ยังทำประตูได้ 1และ2ประตู ตามลำดับ แต่แล้วทำไมใน2นัดล่าสุดของทีมปืนใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ถึงทำประตูไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี่ ยิงประตูกันถล่มทลาย?

ผมลองมาวิเคราะห์ดูตัวผู้เล่น ใน2เกมล่าสุด เปรียบเทียบ กับในเกมก่อนหน้านี้ที่ทีมเรายังทำประตูไหลลื่น ซึ่งเทียบดูตัวผู้เล่นแล้วก็ไม่แตกต่างกันซักเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็มาพบบาดแผลรอยใหญ่ อยู่รอยนึง นั่นคือ "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์"ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม ที่ขาดหายไปใน2เกมล่าสุดที่ทีมเราแพ้ จากอาการบาดเจ็บข้อเท้าในเกมทีมชาติ ต้องพักยาวถึง 5เดือน !!!

Image

ทำไมการขาด ฟาน เพอร์ซี่ย์ไป ถึงส่งผลกระทบต่อทีมเรามากขนาดนี้ ผมจึงขออธิบายให้ฟังอย่างชัดเจนว่า ในแผนการเล่นใหม่ของทีมเรา นั่นคือระบบ 4-3-3 ซึ่งโรบิ้น รับบทบาทเป็นศูนย์หน้าตัวกลาง(Foward centre) ไม่ใช่หน้าเป้า ตัวยืนค้ำทำประตู(striker) อย่างบางท่านคิดไว้ บทบาทของ ศูนย์หน้าตัวกลาง หรือ Foward centre นั่นคือการหาจังหวะทำประตูจากแดนหน้า และก็ลงมาต่อบอลเชื่อมเกมกับ มิดฟิลด์ของทีม ซึ่งตรงกับหน้าที่ของฟาน เพอร์ซี่ เปะ ที่บางจังหวะ จะรอเข้าฮอสทำประตูจากลูกเปิดทางด้านข้าง หรือบางจังหวะจะลงมาต่อบอลเชื่อมเกมกับมิดฟิลด์ของทีม ไม่ว่าจะเป็นฟาเบรกัส หรือ อาร์ชาวิน

บทบาท(Foward centre)ของ ฟาน เพอร์ซี่ย์ในทีมอาร์เซนอล ซึ่งทำหน้าที่ทั้ง ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ และกองหน้าตัวต่ำคอยวิ่งลงมาต่อบอล เชื่อมเกมรุกกับมิดฟิลด์ ซึ่งทำให้ทีมเราได้เปรียบทีมอื่นอยู่มาก เพราะเขาคนเดียวเปรียบเสมือนนักเตะสำคัญ2คนอยู่ในทีม นักเตะTWO IN ONE อย่างเพอร์ซี่ย์ เขาจะรู้จังหวะของทีมอยู่เสมอ ว่าจังหวะไหนจะลงมาต่อบอลกับเพื่อน และเมื่อไหร่จะสอดขึ้นไปทำประตู

แน่นอนการขาดหายไปของ R.V.P ส่งผลกระทบต่อทีมเราเป็นอย่างมาก เพราะทีมปืนใหญ่ขาดทั้งตัวเชื่อมเกมรุกให้ไหลลื่น และตัวจบสกอร์ชั้นดี (จากการลงสนามในปีนี้ เพอร์ซี่ย์ทำได้7ประตูและ7แอสซิส การันตีคุณภาพทั้ง2บทบาทของเขาให้เห็นชัดๆ) ดังนั้นเวนเกอร์ต้องหาตัวทดแทนเพอร์ซี่ย์ นั่นคือ เอดูอาโด้ แต่ใน2เกมที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่สามารถทดแทน ฟาน เพอร์ซี่ย์ได้แม้แต่ซักนิดเลย การต่อบอลกับเพื่อนที่ดูผิดพลาดไปหมด และจังหวะจบสกอร์ยังดูไม่เฉียบคมเหมือนเคย และตัวเลือกที่ถัดมา คาลอส เวล่า ก็ยังดูขาดประสบการณ์อยู่มาก โดยเฉพาะกับเกมใหญ่ๆ

Image

หลายๆคนจึงเสนอ ไอเดียว่า เวนเกอร์ต้องซื้อผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่ง(ตัวใหญ่ๆ) มาใหม่ในช่วงเดือน มกราคมที่จะถึง เช่น เอดิน เซโก้ สเตฟาน คีสลิงก์ หรือ มารูยาน ซามัคห์ แต่ผมบอกได้เลยว่า ผู้เล่นพวกนี้อาจจะมาแก้ปัญหา ในการจบสกอร์ได้ก็จริง แต่การลงมาประสานงาน ต่อบอลเชื่อมเกมรุกกับเพื่อนร่วมทีม ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่?


สุดท้าย ผมจะเปรียบการขาดหายไปของ ฟาน เพอร์ซี่ย์ ว่าเป็นปฏิกิริยา" R.V.P. Effect" ก็คงไม่ผิดมากนัก เพราะการขาดของ R.V.P. ไปร่วม 5เดือน จะส่งผลกระทบต่อทีมปืนใหญ่ อย่างมากมายแน่ โดยเฉพาะเกมที่เจอกับทีมใหญ่ๆ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ,เชลซี หรือแม้แต่เกมนอกบ้านที่เจอกับทีมกลางตารางจนถึงทีมเล็กๆ ทีมเราจะเจอกับปัญหาการจบสกอร์ และการทำเกมรุกที่ไม่ไหลลื่น เตรียมทำใจไว้ได้เลยครับ แฟนปืน!!!!

มาดูโกลเจ้าของฉายา superman กัน(เหนียวมาก)