วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Jack Wilshere จาก Wonder Kid สู่ Super Star !!!!





เวนเกอร์เคยกล่าวว่า ถ้าหากคุณฝีมือเจ๋งจริง คุณก็สามารถลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ได้ โดยที่ไม่สนว่าคุณจะอายุเท่าไหร่!!!



แอชลี่ย์ โคล เคยเบียดแย่งตำแหน่งแบ็คซ้ายมือหนึ่งของทีมปืนใหญ่ จากซิลวิญโญ่ได้ ทั้งที่ ณ. ตอนนั้น แบ็คซ้ายชาวบราซิลแสดงผลงานได้อย่างสุดยอด ในถิ่นไฮบิวรี่!!!

หรือแม้แต่ เซสก์ ฟาเบรกัส กัปตันทีมชุดปัจจุบัน สามารถก้าวขึ้นมาแทน ปาทริก วิเอร่า ได้ด้วยในวัยกระเตาะ ซึ่งเขาสามารถทำให้แฟนทีมปืนใหญ่ลืมเจ้าปั๊ต ด้วยพริบตา






นี่แหละครับ คือสิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า อายุไม่ได้เป็นอุปสรรค กับโอกาสลงวาดลวดลายฝีเท้าในสนาม ของลูกทีมเวนเกอร์ !!!

แจ็ค วิลเชียร์ Wonder Kid ของทีมปืนใหญ่ในตอนนั้น ถูกเวนเกอร์เรียกเข้าสู่ทีม ชุดลุยปรีซีซั่นที่ออสเตรีย ในปี 2008 หลังจากที่เขาโชว์ผลงานได้อย่างสุดยอด ให้กับทีมชุดเยาวชน




และเขาก็ไม่ทำให้เวนเกอร์ไม่ผิดหวัง เจ้าหนูแจ็คจัดการซัด 2 ประตู ช่วยให้ทีมปืนใหญ่บุกไปชนะทีมโนเนมอย่าง เบิร์กเกนแลนด์ไป 10 ประตู ต่อ 2

และไม่เพียงแค่นี้ วิลเชียร์ยังจัดการบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูสุดสวย จากลูกวอลเลย์ด้วยเท้าซ้าย บอลเข้าตุงตาข่าย ชนิดนายทวารรุ่นคุณน้า อย่าง เยนส์ เลห์มันน์ได้แต่มอง จบเกมทีมอาร์เซนอลบุกไปสอย ทีมสตุ๊ทการ์ทถึงถิ่น 3 ประตูต่อ 1






เวนเกอร์จัดการดันวิลเชียร์ขึ้นสู่ชุดใหญ่ทันที โดยมอบหมายเลขเสื้อเบอร์ 19 สืบทอดตำนานต่อจาก จิลแบร์โต้ ซิลวา อดีตมิดฟิลด์เชิงรับของทีมปืนโต ที่ย้ายไปอยู่ พานาธิไนกอส ยอดทีมแห่งแดนเทพนิยาย

แต่บทบาทของแจ็คกับทีมชุดใหญ่ในปีนั้น หนักไปทางรายการคาร์ลิ่งคัพ ส่วนในพรีเมียร์ลีกกับบอลถ้วยหูโต แจ็คได้แต่ดูรุ่นพี่โชว์ผลงาน ที่ข้างสนาม!!!!




ค.ศ. 2009 ในปีถัดมา แจ็ค วิลเชียร์กลับมาแสดงความมหัศจรรย์อีกครั้ง ในศึกเอมิเรสต์คัพ วิลเชียร์เข้าร่างทรงเมสซี่ โชว์ลีลาลากเลื้อยทั่วสนาม เบิ้ล 2ประตู ช่วยให้ทีมปืนใหญ่เปิดบ้านถล่ม เรนเจอร์ส ยอดทีมแห่งเมืองน้ำเมาไป 3 ประตู ต่อ 0 ท่ามกลางความสรรเสริญจากแฟนๆ เดอะกูนเนอร์ส ที่หวังว่า ปีนี้ แจ็ค วิลเชียร์จะได้แจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวเสียทีี !!!






แต่ก็เข้าอีหรอบเดิม วิลเชียร์ไม่มีบาทกับทีมชุดใหญ่ โดยเฉพาะในเกมลีก และบอลถ้วย UCL อย่างมากก็ได้เป็นเพียงแค่ผู้เล่นตัวสำรอง ข้างสนาม เพราะเวนเกอร์คิดว่ากระดูกวิลเชียร์ยังไม่แกร่งพอ สำหรับเกมหนักๆ ของพรีเมียร์ลีก

ครึ่งฤดูกาลหลัง ซีซั่น 2009 - 2010 เวนเกอร์เกรงว่าวิลเชียร์ ที่ไม่มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ จะทำให้ขาดพัฒนาการ จึงจัดการส่ง เขาให้กับทีมโบลตัน ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล




วิลเชียร์พิสูจน์ให้ กุนซือหน้าเหี่ยวเห็นว่า เขาสามารถเอาตัวรอดจากเกมหนัก ของศึกพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบายๆเลย

และในฤดูกาลนี้เอง เวนเกอร์จัดการดันเจ้าหนูแจ็คขึ้นสู่ชุดใหญ่อย่างเต็มตัว โดยวางบทบาท เป็นมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล ตรงกลางสนาม






ฝีเท้าในสนามที่เกินวัย กล้าเล่น จ่ายบอลแม่นยำ วิสัยทัศน์ก้าวไกล

ทำให้ใครหลายๆคนเปรียบเทียบว่า เขาจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งมิดฟิลด์ห้องเครื่องต่อจาก ฟาเบรกัส ที่ถูกโรคโฮมซิกเล่นงาน แทบจะย้ายทีม ในช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา




ไม่แน่ฤดูกาลนี้ อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ เอลกัปปิตัน เพราะทั้งผลงานของทีมปืนใหญ่ที่กระท่อน กระแท่น บวกกับสภาวะแวดล้อมของเพื่อนร่วมชาติสเปน ที่คอยเป่าหูทุกวี่ทุกวัน

ดังนั้น แจ็ค วิลเชียร์ น่าจะคือคำตอบที่ดีที่สุด สำหรับผู้เล่นที่จะก้าวเข้ามาแทนการจากไปของ ฟาเบรกัส ?






วิลเชียร์ในวัย 18 ปี ซึ่งหลายๆคนบอกว่า เซสก์ในวัยเดียวกันเก่งกว่า

แต่ผมกลับมองว่า ทั้ง 2 รายทำผลงานได้ดีพอๆกัน ในช่วงราววัยอายุ 18 ปี

วิลเชียร์ อาจทำได้ดีกว่า ฟาเบรกัส ในเกมรับด้วยซ้ำไป




สิ่งที่เหลือ ที่จะทำให้วิลเชียร์เป็นนักเตะครบเครื่อง ก้่าวสู่ การเป็น Super Star เต็มขั้น แบบ เซสก์ ฟาเบรกัส นั่นคือ ลูกยิงไกลจากแถวสอง และลูกจ่ายคิลเลอร์ พาส ที่วิลเชียร์ยังดูด้อยกว่า กัปตันเซสก์ แต่ผมคิดว่าวิลเชียร์จะทำได้ เพราะอะไร คลิปข้างล่างจะเป็นคำตอบแทนคำพูดของผมเองไปติดตามกัน








ปล. ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากคุณ fat_kj คอลัมน์เหนี่ยวไกปืน (1) เทพนิยายฉบับ"แจ็ค"ผู้ฆ่ายักษ์
ขอบคุณรูปภาพจาก Google



NEVERDIE CLUB


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มาดูโกลเจ้าของฉายา superman กัน(เหนียวมาก)