วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553
Marouane Chamakh ศูนย์หน้าแบบฉบับ 4-3-3
อะไรคือความลงตัว อะไรคือความพอดี บางครั้งผมก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ?
ความสงสัยของผมผุดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ศูนย์หน้าชาวโมร็อคโก นามว่า มารูยาน ซามัคห์ ตกเป็นข่าวผัวพันกับทีมปืนใหญ่ ในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว!!!
หลังจากที่ผมนั่งพินิจ พิจราณาดูคลิปของอดีตนักเตะบอร์กโดซ์รายนี้อย่างละเอียด ยิ่งตอกย้ำถึงความเคลือบแคลงใจว่า ฝีเท้าของเขาเหมาะสมกับทีมปืนใหญ่จริงหรือ?
ในรายละเอียดของคลิปนี้ มีอยู่จังหวะหนึ่ง ซึ่งซามัคห์ทำหมูหกอยู่หน้าเขตโทษ ทั้งที่บอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว เครื่องหมายเควสชั่นตัวใหญ่ๆโผล่ขึ้นอยู่ในหัวของผมว่า เวนเกอร์จะเซ็นศูนย์หน้าสากกระเบือมาอีกทำไม?
ในทีมปืนใหญ่ ณ. ตอนนั้น ก็มีศูนย์จอมสากกระเบืออย่าง นิคลาส เบนเนอร์อยู่คนนึงแล้ว เวนเกอร์กำลังคิดอะไรอยู่ฟร่ะ!!!
เวลาผ่านไปหนึ่งปี ช่างไวเหมือนโกหก และแล้ว ซามัคห์ก็มาอยู่ถิ่นเอมิเรตส์ดั่งเวนเกอร์หวัง เจ้าบอกตัวปัดร่วมทีมทั้ง หงส์แดง และยักษ์ใหญ่ในลีกเอิง ซึ่งช็อทนี้ได้ใจแฟนเดอะกูนเนอร์สไปเต็มๆ
เวนเกอร์เริ่มปรับแผนจากเดิม 4-4-2 ซึ่งเป็นสูตรยอดนิยมของทีมอังกฤษในอดีต มาเป็นแผน 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 เพื่อให้ทันกับฟุตบอลสมัยใหม่ เมื่อต้นฤดูกาลที่แล้ว
โดยที่แผนระบบนี้ใช้ศูนย์หน้าเป้าตัวเดียว และหน้าที่นั้นก็รับบทโดย โรบิ้น ฟาน เพอร์ซี่ พรานล่านกจากแดนกังหันลม
โรบิ้น ออกสตาร์ทกับบทบาทหน้าเป้าได้ค่อนข้างดีทีเดียว โดยสอยไป 7 ประตู บวกกับ 7 แอสซิส ในช่วงต้นซีซั่นที่แล้ว แต่หลังจากนั้นเหมือนโชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้ง ฟาน เพอร์ซี่ได้รับบาดเจ็บหนัก จากเกมรับใช้ทีมชาติ ต้องพักยาวไปหลายเดือน
ผู้ที่ขันอาสารับบทบาทนี้ต่อก็คือ อัศวินขี่ม้าขาว ชาวรัสเซีย อังเดร อาร์ชาวิน ด้วยเทคนิคและทักษะที่สุดยอด ทำให้นักเตะร่างเล็กรายนี้เอาตัวรอดไปกับเกมที่เจอกับทีมเล็กๆ
แต่อุปสรรคของพี่ม้าก็เกิดขึ้น เมื่อเจอกับทีมระดับเดียวกัน ด้วยรูปร่างที่เล็ก บวกกับแผงหลังคู่ต่อสู้ขนาดไซร้ XL พี่ม้าถูกประกบติด ทำให้เจ้าตัวสำแดงฤทธิ์เดชไม่ออกอยู่หมือนกัน
เอดูอาร์โด้เพิ่งหายเจ็บหนัก ก็ยังดูเหมือนขาดความมั่นใจ ส่วน เบนเนอร์พอถูไถกับบทบาทนี้ไปได้ แต่ปัญหาก็คือ เจ้าหมอนี่ชอบเล่นยากเกิน และใช้โอกาศเปลืองโคตร!!!
ความคิดในหัวของผม ณ. ตอนนั้น ฝังใจว่า โรบิ้น ฟาน เพอร์ซี่เหมาะกับ ตำแหน่งหน้าเป้า ในระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 มากที่สุด และเฝ้ารอคอยศูนย์หน้าชาวดัชต์แมนหายเจ็บกลับมาช่วยทีม
R.V.P กลับมาช่วงท้ายซีซั่นและก็ช่วยทีมได้ไม่มากนัก เพราะในเวลานั้นทีมปืนใหญ่หมดลุ้นแชมป์ 2 ถ้วยใหญ่ ทั้งรายการ EPL และ UCL ไปแล้ว!!!!
หลังจากนั้น ใจผมก็คอยจดจ่อกับผลงานของ ฟาน เพอร์ซี่ กับทีมชาติฮอลแลนด์ เพราะในช่วงอุ่นเครื่องที่ผ่านมา เขาทำผลงานได้ร้อนแรงมาก ทำประตูได้เกือบแทบทุกนัด
จากความเชื่อของผมในเวลานั้น คิดว่า ฟาน เพอร์ซี่ คือนักเตะที่เหมาะกับบทบาทหน้าเป้าในระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 มากที่สุดแล้ว
แต่แล้วเหตุการณ์ก็สวนทางกับความเชื่อของผม โรบิ้น ผลงานไม่ร้อนแรงกับทีมกังหันลม ยิงได้แค่ประตูเดียวจากทั้งทัวว์นาเมนต์
ผมลองกลับมาวิเคราะห์ดูว่าเกิดจากสาเหตุใดที่โรบิ้นฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้าง !!!
อาจเป็นเพราะ นักเตะตัวซัพพอร์ทเขา เป็นพวกวันแมนโชว์ทั้งหมด นักเตะอย่าง ชไนเดอร์และ ร็อบเบน เป็นพวกชงเองกินเองทั้งสิ้น แต่นี้อาจไม่ใช่เหตุผลหลักที่โรบิ้นโชว์ฟอร์มไม่ออก
เหตุผลหลักเป็นเพราะ โรบิ้น ไม่ใช่ศูนย์หน้าตัวใหญ่ ที่แข็งแกร่ง เล่นลูกกลางอากาศได้ไม่ดี ทำให้ลูกโยนยาวหรือบอลครอสเข้าข้าง โรบิ้นไม่สามารถจัดการเปลี่ยนเป็นประตูได้
หลังจากสาธยายมายาว กลับมาเรื่องราวของ ซามัคห์อีกครั้ง อดีตศูนย์หน้าทีมบอร์กโดซ์ ออกสตาร์ทกับบทบาทศูนย์หน้าตัวกลางของทีมปืนใหญ่ในฐานะตัวจริงในซีซั่นนี้ เพราะ R.V.P อยู่ในช่วงพักร้อน หลังจากกรำศึกหนักกับทีมชาติ
ฝีเท้าของ ซามัคห์ ในสนาม ตอบโจทย์ทั้งหมดที่ค้างคาอยู่ในใจของผม แทน เวนเกอร์
การเล่นบอลง่าย บางจังหวะไม่ฝืน เป็นตัวพักบอลในแดนหน้า ขยันวิ่งลงมาล้วงบอลแล้วแต่โอกาส
อีกหนึ่งจุดเด่นของซามัคห์ คือลูกกลางอากาศ เจ้าหมอนี่ช่างกระโดดเทคตัวลอยกลางอากาศได้สูงเสียซะจริงๆเลย
สุดท้าย
ซามัคห์ ไม่ใช่ ศูนย์หน้าจอมเทคนิค เหมือน ฟานเพอร์ซี
ซามัคห์ไม่ใช่ ศูนย์หน้าความเร็วสูงอย่าง อาร์ชาวินและวัลคอตต์
ซามัคห์ไม่ใช่ ศูนย์หน้าที่เฉียบคมแบบ เอดูอาร์โด้
ซามัคห์ไม่ใช่ศูนย์หน้าที่เกรี้ยวกราดแบบ เบนด์เนอร์
แต่ซามัคห์คือส่วนผสมลงตัว ในแบบฉบับ ศูนย์หน้าตัวกลางของทีมปืนใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
เฮ้อ!!! ในที่สุดผมก็เข้าใจความหมายของคำว่าลงตัวและคำว่าพอดีซะที 555
NEVERDIE CLUB
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น