วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

Diaby , Vieira( เส้นขนานที่กำลังโคจรมาพบกัน)



ถ้า เอ่ยชื่อของ "ปาทริค วิเอร่า" แน่นอนครับ ไม่มีแฟนเดอะกันเนอร์คนไหนที่ไม่รู้จักเขา ชายวัย33ปีชาวฝรั่งเศสเชื้อสาย "เซเนกัล" ใช้เวลาอยู่กับทีมปืนใหญ่ยาวนานร่วม9ปี มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จหลายรายการของทีมอาร์เซนอล ถ้ายกให้เขาคือตำนานมิดฟิลด์ของทีมปืนใหญ่ มันก็คงไม่ผิดมากนัก



ถือเป็นวัฏจักรของธรรมชาติครับ ที่ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน รวมถึงชีวิตและหน้าที่การงานของมนุษย์ วิเอร่าในฐานะกัปตันทีมปืนใหญ่ ณ.สมัยนั้น ด้วยวัยและอายุที่มากขึ้น ประกอบกับเลยจุดพีคของชีวิตนักเตะร่างโย่งรายนี้ไปแล้ว แน่นอนครับผู้เล่นที่อายุมากไม่ใช่วิสัยทัศน์การทำทีมของเวนเกอร์อยู่แล้ว กุนซือหน้าเหี่ยวเลยประนีประนอม พูดเปิดทางให้โอกาสย้ายทีมกับเจ้าปั๊ต วิเอร่านักเตะที่มีความหยิ่งยโสพอสมควร เมื่อเจ้านายพูดแบบไม่ให้ความสำคัญในตัวเขา จึงตัดสินใจย้ายไปสวมชุดยูนิฟอร์มสีขาวดำ ที่ยูเวนตูส


กลับมาที่ฝากถิ่นอาร์เซนอลอีกครั้ง ในช่วงเปิดตลาดรอบสองเดือนมกราคม ฤดูกาล2005-2006 มีชายชาวฝรั่งเศสอีกคนย้ายข้่ามฝากจากโอแซร์ มาอยู่ที่ไฮบิวรี่พร้อมกับชายหน้าเงินที่ชื่อ อเดบายอร์


นักเตะเยาวชนทีมชาติฝรั่งเศสในสมัยนั้น มีนามว่า "อาบู ดิยาบี้" ผู้ที่มีรูปร่าง ลักษณะการเล่น รวมถึงลีลาท่าทางเหมือน "ปาทริค วิเอร่า" อดีตนักเตะทีมปืนใหญ่ที่แฟนๆยังอดคิดถึงอยู่ แน่นอนครับ ดิยาบี้ ที่มีอะไรหลายอย่างคล้าย วิเอร่า ทำให้สื่อมวลชล เปรียบเทียบว่าเขา คือนิว วิเอร่า (วิเอร่า คนต่อไป)


ด้วยความกดดันจากแฟนบอลสูงมาก ที่จะเห็น"อาบู ดิยาบี้" มาสืบสานตำนานต่อจาก"ปาทริค วิเอร่า" ทำให้เขายังสามารถทำลายกำแพงเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่กลับกันดิยาบี้ยิ่งก่อกำแพงนั้นสูงขึ้น มาเป็นแรงกดดันตนเองเสียอีก ผลลัพธ์คือ ดิยาบี้ ยังเล่นผิดพลาดอยู่มาก จังหวะจ่ายบอลไม่เข้าขากับเพื่อน เก็บบอลกับตัวไว้นานเกินไป และยังไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอล


ข้ามฝั่งอีกทีมาที่เมืองมักกะโรนี "อิตาลี" ทีมยูเว่ โดนศาลกีฬาพิพากษา จากข้อหากรณีพัวพันการล้มบอลทำให้ถูกลดชั้น ลงไปเล่นใน"กัลโซ่ ซีรีย์ บี" วิเอร่าในฐานะนักเตะระดับโลก แน่นอนครับ เขาไม่ต้องการลดระดับไปเตะในรายการ "ซีรีย์ บี" เพราะเจ้าปั๊ตต้องการรักษาระดับของตัวเอง เพื่อโอกาสติดทีมชาติฝรั่งเศสอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเหตุทำให้วิเอร่าชีพจรลงเท้า ย้ายทีมอีกครั้งไปอยู่กับอินเตอร์มิลาน


ดิยาบี้ที่ยังไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนอาร์เซนอล แต่กลับถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสบ่อยครั้ง จากกุนซือมาดภารโรง "โดมิเน็ก" และกลับกัน วิเอร่า ที่อยู่ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง ถูกเมินเรียกติดทีมตราไก่ จาก"โดมิเน็ก" อีกเช่นเคย !!!


นี่แหละครับ เรื่องราวของชายชาวฝรั่งเศส2คน ที่มีอะไรหลายอย่างคล้ายกัน แต่ทางเดินของเขาทั้ง2กลับขนานกัน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และก็ดูเหมือนว่าเส้นทางของนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสทั้ง2รายนี้ จะไม่มีทางโคจรมาพบกันอีกด้วย...


แต่เรื่องที่ว่าแน่ๆ ตอนจบยังมีหักมุม เมื่อดิยาบี้สลัดความกากออกจากตัวเองได้หมด พร้อมกับเปิดเผยฟอร์มเทพของตนเอง กลับมาทำผลงานในสนามได้อย่างสุดยอด ทำให้ใครๆหลายคนกลับมาโฟกัสดิยาบี้อีกครั้ง แน่นอนเทพบี้ได้รับคำชมอย่างมาก จากสื่อมวลชลและแฟนบอล


ส่วน เส้นทางของวิเอร่ากับทีม"อินเตอร์ มิลาน" ก็จบลง เนื่องจากเจ้าตัวต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อโอกาสไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010ที่แอฟริกา (ถือเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายเจ้าปั๊ตอีกด้วย ถ้าเขาได้ไป) วิเอร่าตัดสินใจย้ายกลับมาที่อังกฤษอีกครั้ง โดยย้ายไปอยู่กับทีมเศรษฐีเรือใบ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้"


ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (วิเอร่าหรือดิยาบี้ไม่ได้รับบาดเจ็บเสียก่อน) วันเสาร์ที่24 เมษายน นักเตะที่ถูกยกให้เป็นไอดอล กับนักเตะที่ถูกเปรียบว่าเป็นนิว จะมาบรรจบพบกันในสนามแข่งจริงเป็นครั้งแรก (ในทีมชาติอาจเจอกันในสนามซ้อม แต่ไม่เคยลงเล่นตัวจริงด้วยกัน) ที่เอมิเรตส์เตเดี่ยม ถึงตอนนั้นแค่ได้คิด ก็มันส์แล้ว เพราะดิยาบี้จะสำแดงฝีเท้าออกมาเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ว่าเขาคู่ควรที่จะเป็นนิววิเอร่าไหม? ส่วนวิเอร่าจะแสดงฝีเท้าเต็มที่เหมือนกัน เพื่อเป็นการตอกหน้าเวนเกอร์ว่า คิดผิดที่ไม่เซ็นสัญญาเขากลับมาร่วมทีมอีกครั้ง


*ดังนั้น หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์มา10วัน จึงไม่มีสาเหตุประการใด ที่แฟนๆจะพลาดแม็ตซ์นี้ได้เลยครับ !!!*


NEVERDIE CLUB

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 มีนาคม 2553 เวลา 23:10

    เยี่ยมครับสำหรับบทความ ขอเอาไปโพสต์ให้คนอื่นอ่านนะ

    ตอบลบ

มาดูโกลเจ้าของฉายา superman กัน(เหนียวมาก)